
AC/DC
@ Wemley Stadium, London
June 26, 2009
ดูมาตั้งเดือนแล้วเพิ่งจะมาอัพ เพราะช่วงปลายเดือนมิถุนายน บอกตรงๆว่าเฉื่อยๆเนือยๆยังไงชอบกล
คือการดูคอนเสิร์ตมันเป็นความอยากส่วนตัวที่อัดอั้นมานานก็จริง แต่ไอ้การตระเวนดูถี่ๆ ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป
นอกจากจะกระทบกับเงินในกระเป๋าอย่างรุนแรงแล้ว ยังพาลให้สภาพร่างกายมันล้าตามไปด้วย โดยเฉพาะผลข้างเคียงจากที่โดนิงตันนี่ยอมรับเลยว่ามีส่วนมากกับทั้งกายและใจ
ลูกคุณหนูก็เงี้ย ไม่ค่อยได้เผชิญความลำบาก
กระทั่งคอนเสิร์ตที่ตั้งใจไว้มากอย่าง AC/DC ก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ถึงจะทิ้งช่วงมาจาก Download ตั้งสองสัปดาห์ก็เหอะ
สำหรับโชว์ที่ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม คราวนี้ ถือเป็นหนสองในการมาทัวร์ลอนดอนของ AC/DC แล้ว หลังจากเคยแวะมาหนนึงตอนเดือนเมษา
จะต่างกันก็ตรงครั้งนั้นเป็นการเล่นแบบอินดอร์ที่ O2 Arena คือใจจริง ก็อยากดูตั้งแต่ครั้งนั้นแล้ว แต่ด้วยความที่ AC/DC ไม่ได้มาเล่นที่ยูเคนานเกือบสิบปี แถมลือกันว่านี่อาจเป็นทัวร์สุดท้ายของ AC/DC ด้วย ในเมื่อ Brian Johnson เองก็เลข 6 นำหน้าเข้าไปแล้ว
บัตรที่ O2 ก็เลยเกลี้ยงเหมือนถูกหลุมดำดูดหายไปตั้งแต่สิบนาทีแรกของวันเปิดจอง
ตอนนั้นก็กระเหี้ยนกระหือรือมากที่จะหาตั๋ว แต่ปรากฎว่าดีมานด์สูง ราคาก็เลยอัพทะลุเพดานไปแตะแถวๆ 200 ปอนด์โน่น เห็นแล้วก็ได้แต่ถอดใจ
แต่แล้วก็เหมือนพระมาโปรด (เวอร์ไปมั้ย?) เพราะจากนั้นไม่นาน ก็มีข่าวว่า AC/DC จะกลับมาลอนดอนอีกรอบ แต่คราวนี้กระโดดจาก O2 ที่รับคนได้หมื่นเศษไปเป็น เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ที่จุได้มากกว่าสองเท่า เพื่อรองรับความต้องการของแฟนๆ
ทีนี้ละเท่ากับถูกหวยสองเด้งเลย หนึ่งคือเคยเข้าเวมบลีย์มาก่อนก็จริง แต่นั่นเป็นการไปดูฟุตบอลในฐานะนักข่าว แต่คราวนี้จะได้ลงไปยืนในสนามอย่างที่ฝันไว้ และสองก็คือได้ดู AC/DC สมใจนั่นแหละ
คราวนี้ไม่พลาดอีก คือตั้งนาฬิกาปลุกไว้มารอจองตั้งแต่นาทีแรกเลย ขนาดนี้ก็ยังเกือบไป เพราะคนอื่นเขาก็ทำแบบเดียวกันจนเว็บเกือบล่ม แต่สุดท้ายก็ตะครุบมาเป็นกรรมสิทธิ์ไว้ได้หนึ่งใบ
เอ่อ ลืมบอกไปว่าจองในที่นี้ คือตั้งแต่ 17 ธันวาคมปีที่แล้ว หรือพูดง่ายๆก็คือบัตรหมดล่วงหน้าเกินครึ่งปีโน่น!?!

นี่แล ตั๋วที่ต้องจองล่วงหน้ากันถึงครึ่งปี
ฟาสต์ฟอร์เวิร์ดมาถึงวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน คือดีเดย์ที่รอคอยมานาน แต่ด้วยความซื่อบื้อบางประการ คือมัวแต่ไปยืนต่อคิวซื้อเสื้อทัวร์ที่ด้านนอกสเตเดี้ยม เลยมีอันต้องพลาดดู The Answer วงเปิดวงแรกที่ขึ้นเวทีตอนบ่ายสี่โมงไป T^T
ที่แย่คือพอเข้าไปในสเตเดี้ยมแล้ว ก็รู้ว่าด้านในเขาก็มีบู๊ตขายเสื้อกับของที่ระลึกเหมือนข้างนอกเด๊ะๆ แถมคิวยังไม่ยาวชนิดต้องรอจนเหงือกแห้งนี่สิ มันน่าเจ็บใจ!?!
การมัวชักช้าอยู่ด้านนอกยังมีผลเสียอีกอย่างคือคนเขาไปจับจองบริเวณด้านหน้าเวทีกันหมดแล้ว จากตำแหน่งที่เข้าไปได้ใกล้ที่สุดก็คือตรงกลางสนามฟุตบอล ลองนึกดูละกันว่ามันไกลจากเวทีที่ตั้งอยู่ติดอัฒจันทร์ฝั่งหลังประตูแค่ไหน

AC/DC ขึ้นเวทีตอนสองทุ่มครึ่ง แต่รูปนี้ถ่ายตอนสี่โมงเศษ!?!
ระหว่างรอ AC/DC ขึ้นเวที ก็มีคิวของ The Subways วงเปิดวงที่สองขึ้นมาคั่นเวลา
สารภาพตามตรงว่าไม่รู้จักเลยแฮะ เช็กข้อมูลเห็นเขาว่าเป็นการาจที่มีแฟนประจำในหมู่คนที่ไปดู Reading Festival แต่แนวมันไม่ได้ไปกับวงเฮดไลน์เลย
คืออย่าง The Answer นี่ยังพอไปได้ แต่สำหรับ The Subways นี่มันคนละเรื่องจริงๆ
เท่าที่สังเกตคนรอบข้างก็มีคนร้องตามได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตะโกนไล่ว่าเมื่อไหร่จะลงไปซักทีมากกว่า ฮ่าๆ

The Subways วงเปิดลำดับสองที่คนดูจำนวนนึงไม่ชอบใจเท่าไหร่
หลัง The Subways (โดนไล่)ลงเวทีไป ก็ยังทิ้งช่วงนานอีกเกือบชั่วโมง กว่าจะมีสัญญาณบ่งบอกว่าคราวนี้ถึงคิวของ AC/DC แล้ว
นั่นคือการ์ตูนแอนิเมชั่น Angus Young ในคราบปีศาจกับสองสาวบนรถไฟที่เรียกเสียงเฮจากคนดูทั้งสนามได้ยกใหญ่ (คือแทรกมุกลามกแบบเชิงสัญลักษณ์นิดนึง แต่คนที่พอผ่านโลกมาบ้าง ดูก็รู้ว่าแต่ละชอตหมายถึงกิจกรรมอะไร)
แอนิเมชั่นติดเรทบนจอภาพขนาดยักษ์ที่ใช้โหมโรงก่อนเริ่มคอนเสิร์ต
ในเมื่อนี่เป็นทัวร์โปรโมทอัลบั้ม Black Ice ฉะนั้น เพลงแรกที่จะประเดิมคอนเสิร์ตคงเป็นเพลงอื่นไม่ได้ นอกจาก Rock N' Roll Train ก่อนที่จอภาพบนเวทีที่ตอนแรกใช้ฉายแอนิเมชั่นจะแยกออกเป็นสองส่วน เปิดช่องให้พร็อพขนาดยักษ์เป็นรถจักรไอน้ำโผล่ขึ้นมาตรงกลางเวทีแทน

Rock N' Roll Train ขนาดยักษ์บนเวที
ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่าว่าระบบเสียงใน Wembley Stadium นี่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ (เห็นว่า Oasis ที่มาเล่นหลังจากวันนั้น ก็เจอปัญหาหนักถึงขั้นไฟดับเลย) แต่ตรงนั้นก็พอมองข้ามไปได้ เพราะการแสดงของ AC/DC ที่มีลูกล่อลูกชนเพียบ
อย่างตอนที่อินโทรของ Hells Bells ดังขึ้น ก็จะมีระฆังขนาดยักษ์ค่อยๆหย่อนลงมาจากด้านบนให้ Johnson ขึ้นไปโหนเล่น
หรือในช่วงระหว่างเพลง The Jack ก็จะคั่นด้วยโชว์เปลื้องผ้าของ Angus จนเหลือแค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว คือจริงๆไม่น่าดูเท่าไหร่หรอก สำหรับคนอายุห้าสิบกว่า แถมเป็นผู้ชายอีกต่างหาก แต่ท่าทางของแกมันชวนให้ฮามาก
และที่ขาดไม่ได้คือการหันหลังให้คนดูและถลกชิ้นสุดท้ายให้เห็นบั้นท้ายแวบๆ สลับกับภาพบนจอขนาดยักษ์ที่กล้องแพนไปหาสาวๆคนไหน ก็จะมีการถลกเสื้อโชว์เป็นของแถมให้หนุ่มๆดูเป็นบุญตา (อันนี้ชอบมาก แผล่บๆ)

ระฆังใหญ่ที่ห้อยอยู่ทางมุมขวาบนของภาพนั่นแหละ Hells Bells
อีกอันนึงที่เด็ดและฮาไม่แพ้กันคือ Whole Lotta Rosie ในช่วงท้าย ก็มีตุ๊กตาเป่าลมขนาดยักษ์เป็นอีสาวร่างสะบึมส์ขึ้นมาขี่รถไฟ แถมยังส่ายไปส่ายมาตลอดเวลา (ตามแรงลมที่เป่า) คือก็ขำๆปนทะลึ่งตามเนื้อหาของเพลงนั่นแล

Rosie ขนาดยักษ์คร่อมรถไฟระหว่างเพลง Whole Lotta Rosie
จนมาถึง Let There Be Rock ที่เป็นเพลงสุดท้าย Angus ก็ค่อยๆเดินจากเวทีผ่านทางเดินที่เตรียมไว้มายืนโซโล่กีตาร์กันจะๆต่อหน้า แถมยังเล่นยาวเหยียดรวมๆแล้วเกือบยี่สิบนาทีได้ ก่อนจะตัดเข้าช่วงท้ายของเพลงแล้วทั้งหมดก็กลับเข้าหลังเวทีไป

Angus กับช่วงโซโล่ตอนกลางและท้าย Let There Be Rock ที่ยาวเกือบยี่สิบนาที
ถึงช่วงอังกอร์ก็เหลืออีกแค่สองเพลงเอกที่ยังไม่ได้เล่น คือ Highway To Hell และปิดท้ายอย่างเป็นทางการด้วย For Those About To Rock (We Salute You) ที่เปลี่ยนพร็อพจากรถไฟยักษ์กลายเป็นปืนใหญ่หกกระบอกสำหรับยิงสลุตในท่อนคอรัสกับตอนจบเพลงแทน
ส่วนไอ้กระบอกใหญ่ในรูปข้างล่างนั่นไม่ใช่ของจริงนะ เป็นภาพที่ฉายอยู่บนจอ

For Those About To Rock (We Salute You)
ก็จบกันไปด้วยความเหนื่อยอ่อน บวกเปียกเล็กน้อย เพราะฝรั่งพิเรนทร์เล่นขว้างแก้วพลาสติกที่มีเบียร์อยู่กันให้ว่อนไปหมด แถมยังกระเซ็นมาโดนกล้องให้เหนียวเหนอะอีกด้วย ดีนะไม่พัง...
Setlist
1. Rock N' Roll Train
2. Hell Ain't a Bad Place to Be
3. Back in Black
4. Big Jack
5. Dirty Deeds Done Dirt Cheap
6. Shot Down in Flames
7. Thunderstruck
8. Black Ice
9. The Jack
10. Hells Bells
11. Shoot to Thrill
12. War Machine
13. Dog Eat Dog
14. Anything Goes
15. You Shook Me All Night Long
16. T.N.T.
17. Whole Lotta Rosie
18. Let There Be Rock
Encore:
19. Highway to Hell
20. For Those About to Rock (We Salute You)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น