
BLUR
@ Hyde Park, London
July 2, 2009
ช่วงนี้แย่แฮะ เหมือนไม่ค่อยมีแรงกระตุ้นให้อัพเดตบล็อกเท่าไหร่ เพราะมีเรื่องโน้นเรื่องนี้เข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวจนสับสนไปหมด
อย่างคอนเสิร์ต Blur ที่ Hyde Park นี่ถ้าเป็นอาหารก็ต้องบอกว่าเก็บไว้จนหมดรสชาติไปแล้ว ไม่ได้หมายถึงตัวคอนเสิร์ตนะ แต่เป็นคนเขียนเองนี่แหละที่เก็บไว้จนอารมณ์สนุกตอนนั้นมันจางไป แทนที่จะเขียนสดๆตั้งแต่ตอนนั้น น่าจะได้อรรถรสมากกว่า
สำหรับ Blur เอง ก็คงคล้ายๆกับ AC/DC ที่เขียนไปเมื่อตอนก่อนคือเป็นโชว์ที่คนส่วนใหญ่ตั้งตารอคอยกันเป็นพิเศษ เพราะเป็นการรียูเนียนของคลาสสิคไลน์อัพหนแรกในรอบหลายปี
คือจริงๆจะบอกว่านี่เป็นโชว์แรกก็ไม่เชิง เพราะตั้งแต่ทั้งสี่หน่อตัดสินใจกลับมารวมตัวกันในช่วงซัมเมอร์ก็ขึ้นเวทีเล่นไปแล้วหลายรายการ รวมถึง Glastonbury ก่อนหน้านี้ด้วย
แต่ที่ Hyde Park นี่ถือเป็นโชว์เฉพาะของวงล้วนๆ ไม่ต้องไปแย่งหรือแบ่งความเด่นกับใคร
ตามกำหนดเดิม โชว์ที่ Hyde Park นั้นวางไว้แค่วันเดียวคือศุกร์ที่ 3 มิ.ย. แต่คงจะด้วยดีมานด์ที่ล้นหลามจนโซลด์เอาต์ ทำให้ทางวงกับ Live Nation ผู้จัดต้องเพิ่มจำนวนโชว์ขึ้นอีกวัน เลยกลายเป็นว่าคนที่มาจองทีหลังได้ดูก่อนซะงั้น (โชว์ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นวันพฤหัสฯ)
แต่ถึงจะมาจองทีหลัง แต่ก็เรียกว่าจองกันข้ามปีอีกเหมือนกัน รู้สึกจะเป็นช่วงไล่ๆกับ AC/DC นี่แหละ
พูดถึง Hyde Park กันซักหน่อย ที่นี่ก็คือหนึ่งในสวนสาธารณะใหญ่จำนวนเก้าแห่งของลอนดอน (Royal Parks of London) ส่วนตัว ถ้าพูดถึงความร่มรื่นหรือสวยงามคงไม่เท่าไหร่
แต่สิ่งที่ทำให้ Hyde Park ขึ้นชื่อก็คือ Speaker's Corner หรือมุมอิสระสำหรับการพูดในที่สาธารณะ จนบ้านเราเอาชื่อสถานที่ไปใช้เรียกเวลามีการพูดในที่ชุมนุมแทน
นอกจาก Speaker's Corner อีกจุดขายของ Hyde Park ก็คงไม่พ้นความเป็นลานกว้างสำหรับให้คนมารวมตัวกันมากๆ และแบบนี้จะมีอะไรเหมาะไปกว่าเทศกาลคอนเสิร์ตกลางแจ้ง
เฉพาะซัมเมอร์นี้ Live Nation คงเช่าเอาไว้แบบยาว เพราะตลอดสัปดาห์นั้น กดกันมาต่อเนื่อง ทั้ง Hard Rock Calling, Blur สองวัน ส่วนเสาร์อาทิตย์ยังมี Kanye West กับ Basement Jaxx ให้ดูกันต่อด้วย (ถ้ามีเงินซื้อบัตรนะ)

พูดถึงการจัดสถานที่ตั้งเต็นท์ขายของอะไรก็เป็นตามสไตล์ของ Live Nation จริงๆ ด้วยความที่เพิ่งดู Download Festival มา ทุกอย่างก็เหมือนของเดิมแบบเด๊ะๆ เลยไม่ค่อยรู้สึกรู้สมอะไรเท่าไหร่ ยิ่งวงเปิดสองวงที่ขึ้นเวทีมาอุ่นเครื่องคนดู ก็สารภาพตามตรงเลยว่าไม่รู้จัก แฮ่ๆ (เล่นง่ายจังนะ)

กว่า Blur จะขึ้นเวทีก็ล่อเข้าไปสองทุ่มกว่าเกือบสามทุ่มโน่นแล้ว ด้วยความที่อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ซักหน่อย ก็เลยอุตส่าห์สอดแทรกเข้าไปด้านหน้าเวที แต่ก็ได้มาแค่นี้เอง แล้วสุดท้ายก็ทนแรงเบียดเสียดไม่ไหว หลบไปนั่งดูต่อจากระยะไกลแทน

พูดถึงโชว์ของ Blur แล้ว ก็ต้องบอกว่าสมราคาของวงระดับแถวหน้าของอังกฤษ ทั้งระบบเสียงและแสงบนเวที โดยเฉพาะตอนท้ายๆที่ฟ้ามืดแล้วทำออกมาได้อลังการมาก
แต่พอมาอยู่นี่นานๆแล้ว กลับรู้สึกชอบดูในสถานที่เล็กๆเหมือนอย่างตอนไปเบียดกับสาวๆในงาน Tha Manics มากกว่า คือคอนเสิร์ตใหญ่มันก็สนุกดี แต่รู้สึกเหมือนมีช่องว่างระหว่างนักดนตรีกับคนดูมากเกินไป หรือคิดไปเองคนเดียวก็ไม่รู้แฮะ
เขียนแบบเบลอๆแล้วก็จบแบบเบลอๆนี่แหละ
เฮ่อ...ก็บอกแล้วว่าช่วงนี้มันเบื่อๆอยากๆ
Setlist
1. She's So High 2. Girls And Boys 3. Tracy Jacks 4. There's No Other Way 5. Jubilee 6. Badhead 7. Beetlebum 8. Out Of Time 9. Trimm Trabb 10. Coffee And TV 11. Tender 12. Country House 13. Oily Water 14. Chemical World 15. Sunday Sunday 16. Parklife (with Phil Daniels) 17. End Of A Century 18. To The End 19. This Is A Low
Encore:
20. Popscene 21. Advert 22. Song 2
Encore 2:
23. Death Of A Party 24. For Tomorrow 25. The Universal
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น