Download 2009
Donington Park, Leicestershire
June 12-14, 2009ย่างเข้าวันที่สองของ Download 2009 กันแล้ว ตามรายชื่อของวงที่ถูกจัดไว้ นี่น่าจะเป็นวันที่หลายคนรอคอยมากที่สุด เพราะมีวงดังๆในยุคปัจจุบันค่อนข้างเยอะ ทั้ง Slipknot ที่เป็นเฮดไลเนอร์ของ Main Stage The Prodigy ที่ขึั้นเล่นวงสุดท้ายของเวทีรอง Marilyn Manson, Pendullum, Dragonforce, Down, Hatebreed, Devil Driver ฯลฯ
แต่ส่วนตัวกลับรู้สึกเฉยๆไม่ค่อยกระตือรือล้นเท่าไหร่ เพราะรสนิยมมันตกยุคไปแล้ว
ก็เลยตั้งใจว่าจะตระเวนไปเวทีโน้นเวทีนี้ดูวงแปลกๆ ที่คงหาโอกาสดูยากอยู่ซักหน่อยแทน
สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ นอกจากพวกที่มาตั้งแคมป์แล้ว ก็จะมีการเปิดขายบัตรให้คนทั่วไปเข้าชมด้วย ในแบบที่เรียกว่า Weekend ticket คือดูวันต่อวันแล้วก็หาทางกลับบ้านกันเอง ฟังดูเหมือนลำบาก แต่แบบนี้แหละที่พ่อแม่จะพาลูกๆมาเที่ยวกัน
คือออกจะทะแม่งๆหน่อยที่พ่อแม่พาลูกมาดูคอนเสิร์ตร็อคหรือเมทั่ล แต่คนที่นี่เขาก็เป็นแบบนี้จริงๆ มันเป็นเหมือนวัฒนธรรมเป็นกิจกรรมของครอบครัว เหมือนฟุตบอลนั่นแหละ ส่วนบ้านเรา คงไม่ต้องพูดอะไรมาก ขนาด DDT กับ Music Express ยังต้องปิดตัว ก็ไม่รู้ว่าจะยังไงแล้ว โหลดกันเข้าไปเหอะ (ชักมีอารมณ์)
วันเสาร์กับอาทิตย์นี่ก็จะเริ่มเช้าหน่อย คือ 11 โมงก็เริ่มบรรเลงกันแล้ว แดดกำลังเปรี้ยงพอดี เลยเดินแวะเข้าบาร์ไปหยิบ Gaymers Pear (ไซเดอร์ที่ทำจากลูกแพร์) มาซดเป็นการเริ่มต้น ก่อนจะนั่งดู Tim "Ripper" Owens ที่ Main Stage อย่างสบายอารมณ์
นึกแล้วก็น่าน้อยใจแทน Owens เหมือนกันแฮะ จากที่เคยอยู่กับ Judas Priest เป็นวงระดับเฮดไลน์ ต้องมาเล่นกลางแดดเปรี้ยงเป็นวงแรกของวัน โดยที่ยังมีคนเข้ามาในอารีน่าไม่มาก แต่พี่แกก็ยังเต็มที่ดี แล้วก็ร้องเพลงตัวเองสลับกับเพลงของ Priest แบบดื้อๆซะหยั่งงั้น ทั้ง The Ripper รวมถึง The Green Manalishi (With the Two-Prong Crown) ที่วางไว้เป็นเพลงสุดท้าย (ทำหยั่งกะเป็นเพลงตัวเอง)
เอ่อ...แต่ ...แต่ ลืมถ่ายรูปไว้ฮะ ท่านผู้อ่าน ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
Owens เล่นอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ลาโรงไปตามคิว ถึงตอนนั้นก็ใกล้เที่ยงแล้ว แดดที่ตกใส่กบาลกำลังร้อนได้ที่ นึกหาที่หลบก็มีอยู่แค่สองแห่ง หนึ่งในนั้นคือเวที Tuborg Stage ว่าแล้วก็เดินฉับๆข้ามไปอีกฟากของ Donington Park มุ่งหน้าไปหาที่ร่มกัน
นี่แล Tuborg Stage ด้านหน้ามีลูกเล่นนิดหน่อยให้คนสอดหัวเข้าไปถ่ายรูปด้วยได้ตอนที่ไปถึงนั้น มีวงหน้าใหม่ชื่อ No Americana กำลังเล่นอยู่พอดี ตัวเพลงก็เป็นป็อปร็อคที่ค่อนไปทางบริตอยู่ซักหน่อย จะว่าไปก็ผิดธรรมเนียมอย่างแรงสำหรับ Download เรื่องฝีมือหรือตัวเพลงก็ยังไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่ จะมีก็ลุคส์ของสมาชิกในวงที่ดูดีหน่อย แต่ถ้าหวังจะดังด้วยเรื่องเพลง เห็นทีจะลำบากหน่อย
No Americana น่าเบื่อกว่าที่คิดยืนดู No Americana แบบแกนๆพอให้หายร้อน ก็ถึงคราวกลับไปที่ Second Stage อีกรอบ คราวนี้มีเป้าหมายอยู่ที่ Hardcore Superstar สลีซร็อคจากสวีเดน
อาจจะเพราะรสนิยมส่วนตัว (อคติชัดๆ) รู้สึกเลยถึงความแตกต่างกันแบบเห็นๆ คือดู Hardcore Superstar แล้วมันสนุกกว่ากันเยอะ ถึงจะไม่ค่อยรู้จักเพลงของวงเท่าไหร่ แต่ก็มันตามไปด้วยได้ไม่ยาก คือ No Americana ดูแล้วยังไงก็บิลด์อารมณ์ไม่ขึั้นจริงๆง่ะ
Hardcore Superstar สลีซพันธุ์ล่ำจากสวีเดนถึงตอนนี้เริ่มชักเอียนๆปนเหนื่อยแล้ว ทั้งจากการกรำศึกหนักเมื่อวาน + ความร้อน + แอลกอฮอล์ที่ซดเข้าไป แต่ก็ไม่รู้จะไปไหนต่อ เพราะวงในวันเสาร์นี่เป็นวงรุ่นใหม่หมดเลย สุดท้ายเลยไปป้วนเปี้ยนแถว Main Stage กับเขาดูบ้าง ตอนบ่ายโมงแก่ๆแดดเปรี้ยงชวนให้ละลายดีแท้ ก็ถึงเวลาขึั้นเวทีของ Hatebreed
แต่สารภาพตามตรงนะ ไม่รู้จักซักเพลงเลย ก็ไม่ชอบฮาร์ดคอร์นี่หว่า แต่สำหรับวัยรุ่นที่มาออกันหน้าเวทีแล้ว ใส่กันแบบเมามันมาก รุ่นลุงเลยได้แต่ยืนดูไปพลางจิบเบียร์ไปพลาง ที่เด็ดคือตรงหน้าจอจะฉายไปที่คนดูเป็นระยะ แล้วก็จะมีสาวๆขี่คอแฟนถลกเสื้อโชว์ของดีให้ดูอยู่ตลอด แหม่ ชอบจริงๆ แบบนี้
Hatebreed ที่คนเขียนไปดูทั้งที่ไม่มีซีดีของวงซักแผ่นตามโปรแกรมต่อจาก Hatebreed ก็จะเป็น Down ตอนบ่ายสามโมง ตามด้วย Dragonforce ตอนบ่ายสี่ยี่สิบ แต่อารมณ์ตอนนั้น ไม่ค่อยอยากดูเท่าไหร่ เลยไปเดินเล่นเก็บบรรยากาศรอบๆแก้เลี่ยน
ดูเอาละกันว่าฟ้าโปร่งขนาดไหน แดดก็แรง ร้อนตับแลบ
ร้านขายหน้ากากสารพัด อยากซื้อมาใส่เล่นเหมือนกัน เสียดายแพงไปหน่อย
สองสาวเปรตที่ต่อขาไว้สำหรับให้คนเดินไปเดินมาถ่ายรูปด้วย
ปีศาจอีกสองตัวที่มาพร้อมกลุ่มสาวเปรตเมื่อตะกี้เดินเล่นไปมา สุดท้ายก็หนีไปหลบแดดที่เวที Tuborg Stage อีกรอบ คราวนี้เป็นคิวขึันเวทีของ Billy Boy on Poison อัลเทอร์เนทีฟ/แกลมพั้งก์ จากแคลิฟอร์เนีย แต่กว่าน้องๆจะขึ้นเวทีได้ ก็ดีเลย์ไปเป็นสิบนาทีเหมือนกัน
เรื่องลีลาบนเวทีนี่ใช้ได้ โดยเฉพาะนักร้องนำที่มั่วได้ใจเหลือเกิน รวมๆแล้วก็พอฟังได้ แต่ไม่ค่อยเก็ตเท่าไหร่ จะดีหรือไม่ดี คนชอบแนวนี้ไปฟังต่อกันเองที่ www.myspace.com/billyboyonpoison ละกันนะ
Billy Boy on Poison ลีลาใช้ได้ แต่ไม่ใช่แนวคนเขียนเลยบอกไม่ถูกว่าดีหรือไม่ดี
Down ที่ Main Stage คนเยอะแค่ไหนดูจากภาพเอาก็คงรู้ถึงตอนนี้ก็งงไปหมดละ ไม่รู้จะไปดูอะไรต่อดี ระหว่าง Dragonforce กับ The Answer สุดท้ายก็เลือกเอาวงหลัง เพราะ Dragonforce นั้นเคยดูมาแล้วทีนึงที่ The Rock Pub ถึงซาวนด์จะอุตลุดไปหน่อยก็เหอะ
สำหรับ The Answer นี่ สื่อบางฉบับที่นี่เค้ายกให้เป็น Led Zeppelin ของไอร์แลนด์เหนือ คือจะว่าไปก็ใกล้เคียง มีอะไรหลายๆอย่างชวนให้นึกถึง อย่างรูปลักษณ์ภายนอกของ Cormac Neeson นักร้องนำที่ออกคล้ายๆ Robert Plant กับดนตรีฮาร์ดร็อคบลูส์ แต่รวมๆแล้ว น่าจะออกไปทาง The Black Crowes ที่เล่นหนักหน่วงขึ้นมาหน่อยมากกว่า
The Answer เขาว่าเป็น Led Zeppelin จากไอร์แลนด์เหนือ
The Answer เล่นจบราวๆห้าโมง เท่ากับว่าชอยส์ต่อไป คือ Pendullum ที่ Main Stage, You Me At Six ที่ Second Stage หรือ Man Raze ที่ Tuborg
ถ้าเดารสนิยมกันออก คงรู้ว่าต้องเลือกไป Tuborg แน่ เพราะ Man Raze คือไซด์โปรเจ็กต์ของ Phil Collen (Def Leppard) Simon Laffy (Girl) และ Paul Cook (Sex Pistols)แต่ผลลัพธ์คือต้องผิดหวัง เพราะรู้สึกว่าหนังสือโปรแกรมจะลงเวลาผิดหรือไงนี่แหละ เพราะกลายเป็นว่าวงที่ได้ดูกลายเป็น Lawnmower Deth ครอสโอเวอร์แธรชรุ่นดึกที่กลับมารวมตัวกันอีกครั้งแทน
คือถ้าใครเห็นภาพในปัจจุบันแล้ว คงงงน่าดูเพราะไม่มีเค้าของสมัยก่อนเหลืออยู่เลย อ้วนและหัวล้านแล้วทุกคน
ดูๆไปแล้วก็ฮาดีเหมือนกัน เพราะเน้นปล่อยมุกกันกระจายตลอดเวลายี่สิบนาทีเศษๆที่อยู่บนเวที แต่ก็เซ็งตรงไม่ได้ดู Man Raze อย่างที่ตั้งใจไว้นี่แหละ
ตั้งใจมาดู Man Raze ดันได้ดู Lawnmower Deth ซะงั้น
ต่อจาก Lawnmower Deth ก็คือวงพิเศษที่ทางคนจัดเขาใส่เครื่องหมายคำถามไว้ให้เดากันเล่น (แต่จริงๆเฉลยในเว็บก่อนหน้ามาเป็นอาทิตย์แล้ว) นั่นคือ Thunder ฮาร์ดร็อครุ่นเก๋าของอังกฤษที่เตรียมแยกวงอย่างเป็นทางการ
ความนิยมของ Thunder มากขนาดไหนก็คือตอนถอยออกมาว่าจะไปซื้อเบียร์มาซดซักหน่อย เลยกลายเป็นว่ากลับเข้าไปในเต็นท์ Tuborg ไม่ได้อีกเลย เพราะคนแน่นเอี้ยดจริงๆ เพราะฉะนั้น เรื่องรูปไม่ต้องพูดถึง จะมองเข้าไปยังไม่เห็นเลย ได้แต่ยืนฟังแล้วก็ร้องตามอย่างเดียว
บรรยากาศก็เหมือนงานร่ำลาจริงๆ ถึงตามคิว วงยังจะออกทัวร์ทั่วอังกฤษเป็นครั้งสุดท้ายก่อนปิดฉากอย่างเป็นทางการที่ Hammersmith Apollo ปลายเดือนกรกฎาคมก็ตาม
เพลงเก่งๆโดยเฉพาะจาก Backstreet Symphony ก็ถูกขุดขึ้นมาเล่นจนหมด เหลียวซ้ายแลขวาดูคนที่ร้องตามได้ ก็หัวหงอกกันเกือบหมดแล้วทั้งนั้น
นี่แหละ Thunder (อยู่ตรงไหนของภาพวะ)เพราะ Thunder นี่แหละ ทำให้รู้ว่าถ้าคิดจะรอดู Anvil วงสุดท้ายของเวที Tuborg รับรองว่าคงเจอสถานการณ์ไม่ต่างกัน ก็เลยตัดสินใจมูฟจากเต็นท์ Tuborg ออกมาเดินเตร็ดเตร่รอเวลาดู Slipknot เฮดไลน์ของ Main Stage ในวันเสาร์แทน
ระหว่างนั้นก็เดินไปต่อคิวซื้อเสื้อทัวร์ Motley Crue มาเป็นที่ระลึกหน่อย ผลปรากฎว่าหมดเกลี้ยงทุกแบบ ทุกไซส์ เลยหันไปคว้า Tesla มาแทน (ไม่ได้เกี่ยวกันเล้ย)
รวมกับการหาอะไรใส่ปากท้องด้วย เท่ากับว่าช่วงนี้ก็เสียเวลาไปเยอะเหมือนกัน จะไปดู Chris Cornell ที่เวทีสองก็แน่นเอี้ยด จนหารูแทรกเข้าไปไม่ได้ ส่วน Main Stage ก็เป็น Marilyn Manson ที่หลังๆไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ ก็เลยใช้วิธียืนจิบไซเดอร์ไปพลางดูไปพลาง (ไพนท์ที่ห้าแล้ว)
จนถึงสามทุ่มนั่นแหละค่อยถึงเวลาขึ้นเวทีของ Slipknot สังเกตจากรูปแรกที่ลงไว้ จะเห็นเลยว่าสามทุ่มช่วงซัมเมอร์ของที่อังกฤษ อารมณ์จะอยู่แถวๆหกโมงเย็นเท่านั้น
Slipknot ขึ้นเวทีเป็นวงสุดท้ายของ Main Stage สาบานได้ว่านี่สามทุ่มแล้วความพิเศษก็คือนี่เป็นปีครบรอบหนึ่งทศวรรษพอดีของการวางตลาดอัลบั้มชุดแรกสำหรับ Slipknot แล้วก็เป็นการเล่นที่โดนิงตันหนแรก ในฐานะวงเฮดไลน์ของ Main Stage ด้วย ตลอดเวลา Corey Taylor ก็จะขอบคุณแฟนเพลงตลอด สลับกับการโขยกทั้งเพลงเก่าและใหม่ (หนักไปทางของเก่า) ไปเรื่อย
อ่านในหนังสือโปรแกรม Matt Heafy ของ Trivium บอกว่า Taylor นั้นมีพลังสามารถสะกดคนดูได้เป็นแสนๆ จะได้พิสูจน์กับตัวเองก็วันนี้เอง เพราะตอนช่วงท้ายๆนั้น พี่แกสั่งให้ทุกคนนั่งลงจะได้เห็นชัดๆว่ามากันมากน้อยแค่ไหน คนดูทั้งหมดก็นั่งลงแบบสั่งได้จริงๆ (เป็นไปกับเขาด้วย)
ส่วนสมาชิกคนอื่นๆก็ใส่กันเต็มที่เหมือนกัน ที่ไม่ค่อยขยับก็มีแค่ Jim Root, Mick Thomson สองมือกีตาร์ แล้วก็ Paul Gray มือเบสเท่านั้น ขนาด Joey Jordison มือกลองยังขยับได้เลย เพราะชุดกลองนั้นถูกยกแล้วก็เหวี่ยงไปมาด้วย อาจจะไม่เท่ากับ Tommy Lee สมัย Motley Crue ยังพีกๆ แต่ดูแล้วก็เวียนหัวแทนอยู่ดี พวกที่เหลือไม่ต้องพูดถึงโดยเฉพาะสองมือเพอร์คัสชั่นนั้นปีนป่ายไปทั่วเวที แถมลงไปเล่นกับคนดูตลอด

ขนาดไม่ใช่แฟนเพลงเหนียวแน่นของวงก็ยังรู้สึกว่าต้องโยกหัวตามไปด้วย แถมข้างหน้านี่ก็เล่นแท็ก เล่นมอชพิตกันอย่างเมามัน และด้วยความที่เป็นวงปิดด้วย Slipknot ก็เลยเล่นกันแบบเต็มแม็ก รวมช่วงอังกอร์ด้วยกดไปสองชั่วโมงเน้นๆ ก่อนที่ทุกคนจะสลายโต๋แยกย้ายไปเข้าเต็นท์ของตัว
จริงๆก่อนจะผลอยหลับไป ก็ยังได้ยินเสียงคนปาร์ตี้กันต่อ แต่อารมณ์นั้นไม่ไหวแล้ว พอหัวถึงหมอนปุ๊บก็สลบเหมือดทันที ซึ่งก็ดีเพราะเท่ากับเป็นการออมแรงไว้สู้ชีวิตต่อในวันสุดท้ายที่เขาวางคิวไว้ให้เป็นวันของ Classic Rock...
Slipknot Set List
Iowa (Intro)
742617000027
(sic)
Eyeless
Wait and Bleed
Get This
Before I Forget
Sulfur
The Blister Exists
Dead Memories
Left Behind
Disasterpiece
Vermilion
Everything Ends
Psychosocial
Duality
People = Shit
- Encore -
Surfacing
Spit It Out
'Til We Die