วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

Made in England Online (2)

A Night At The Theatre With Asia
HMV Forum, London
Friday 24th April 2009



ด้วยความที่ชีวิตยังสะเปะสะปะ หาความเป็นรูปร่างไม่เจอ เลยชักไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ที่แค่เรื่องอัพบล็อกจะทำให้มันเป็นกิจจะลักษณะยังไม่ค่อยจะได้

Made in England ฉบับลี้ภัยจาก M.E. มาหนนี้ถึงได้ห่างหายจากคราว Metallica นานพอสมควร อีกเหตุผลก็คือมันไม่มีคอนเสิร์ตอะไรที่ต้องตาต้องใจมากนัก แต่เดี๋ยวเอาไว้เข้าปลายเดือนพฤษภาคมก่อนเหอะ รับรองอัพบล็อกกันแทบทุกสัปดาห์ (ขี้โม้จริงๆ)

สำหรับ A Night At The Theatre With Asia หนนี้ ความน่าสนใจหลักๆคงอยู่ที่การกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของสมาชิกยุคคลาสสิคไลน์อัพ อันประกอบด้วย Steve Howe - กีตาร์ Geoff Downes - คีย์บอร์ด Carl Palmer - กลอง และ John Wetton - เบส/ร้องนำ


ราคาหน้าตั๋วอยู่ที่ 25 ปอนด์ แต่ต้องจ่ายค่าหัวคิวให้ ticketmaster อีก 3.25 ปอนด์ ไม่นับค่าไปรษณีย์อีกนะ

พูดถึงตรงนี้ก็อาจทำให้หลายคนสับสนกันนิดหน่อย เพราะยังมีอีกหนึ่ง Asia ที่นำโดย John Payne มือเบส/นักร้องนำในยุคหลังที่ยังออกทัวร์อยู่เช่นกัน โดยใช้ชื่อว่า Asia featuring John Payne เปรียบไปก็คงคล้ายๆกับ L.A. Guns ของ Phil Lewis กับ L.A. Guns ของ Tracii Guns อะไรทำนองนั้น

แต่ของ Asia จะแยกเป็นเอกเทศชัดเจน คือคลาสสิคไลน์อัพนั้นจะเลือกเล่นเพลงจากสามอัลบั้มแรก รวมถึง Phoenix ที่เพิ่งวางตลาดเท่านั้น ส่วนใครอยากฟังเพลงจากชุด Aqua จนถึง Silent Nation ก็คงต้องไปรอดูไลน์อัพของ Payne เอา


นี่แลบริเวณด้านหน้าของ HMV Forum ถ้าเป็นตอนกลางวันอาจนึกว่าโรงหนังชั้นสองบ้านเรา

ด้วยความที่ไม่ใช่วงในระดับเมนสตรีม ฉะนั้น สถานที่ที่ทางวงเลือกเล่นก็ออกจะเล็กอยู่ซักหน่อยคือ HMV Forum ที่มีลักษณะคล้ายๆกับโรงละครเก่าดัดแปลงมาใช้เป็นสถานที่เล่นคอนเสิร์ต คือดูจากบรรยากาศภายนอกนี่ค่อนข้างคร่ำคร่า แต่ภายในก็จัดว่าตกแต่งได้สวยงามแบบเก่าๆดี

ที่ฮานิดหน่อยคือสถานที่แบบนี้แหละที่คืนก่อนหน้า Asia นั้น Saxon วงจากยุค NWOBHM เพิ่งมาโขยกกันไปหมาดๆ ทั้งที่ดูจากการตกแต่งภายในแล้วไม่ได้เข้ากับความเป็นเมทั่ลเลย

ส่วนข้อเสียก็คือที่นั่งนั้นไม่ได้ฟิกซ์ที่เอาไว้ ฉะนั้น ใครยกตูดขึ้นไปเข้าห้องน้ำเมื่อไหร่ รับรองเสียตำแหน่งทันที

สถานที่ก็เก่า อายุอานามของวงก็ปาเข้าไปเกือบสามสิบปี (ไม่นับผลงานของแต่ละคนก่อนหน้า) ฉะนั้น เรื่องคนที่มาดูไม่ต้องพูดถึง คือคนเขียนก็จัดเป็นรุ่นน้าแล้ว ปรากฎว่าส่วนใหญ่ที่มายืนต่อคิวรอเข้าไปดูนั้น ร้อยละ 80 เข้าขั้นลุงป้าเป็นอย่างต่ำ ที่เหลือนั้น คะเนด้วยสายตาคงไม่น่าห่างจากคนเขียนเท่าไหร่ แล้วก็มีกลุ่มวัยรุ่นแทรกมานิดหน่อย

เห็นแบบนี้แล้วก็นึกถึงตอนดู Extreme ที่ Astoria ขึ้นมาเหมือนกัน คือฝรั่งนั้น สมัยวัยรุ่นร็อคขนาดไหน ปาเข้าไป 40-50 แล้วก็ยังร็อคได้อยู่ ถึงหัวเหอจะไปแล้ว หรือพุงปลิ้นเพราะเบียร์จนใส่กางเกงหนังรัดติ้วไม่ได้ แต่ข้างในไฟยังไม่มอดว่างั้นเถอะ

ส่วนสมาชิกทั้งสี่ของ Asia "เกือบ" ทั้งหมด ถึงวัยจะล่วงเลยไปเยอะแล้ว แต่ดูหน้าตาก็ยังถือว่าอ่อนกว่าวัยมาก โดยเฉพาะ Geoff Downes นั้นยังไว้ผมทรงเดียวกับยุค 80s อยู่เลย (555+)


John Wetton ไม่บอกก็ไม่รู้ว่านี่อายุ 59 แล้วนะ


Geoff Downes (56) ยังดูเด็กกว่าอายุจริงสิบปีเห็นจะได้


Carl Palmer เพิ่ง 59 หมาดๆ แต่ยังแข็งแรงดีอยู่

จะมีที่เหี่ยวจนน่ากลัวอยู่คนเดียวก็คือ Steve Howe นั้น ถ้าไม่บอกกล่าวคงไม่มีทางรู้เลยว่าแก่กว่าอีกสามคนแค่ 2-3 ปีเท่านั้น ดูจากรูปเอาก็คงรู้


อย่าเพิ่งเข้าใจผิด นี่คือ Steve Howe (62) นะจ๊ะ ไม่ใช่ Sven Goran Eriksson

ในส่วนของคอนเสิร์ต ถึงจะระบุว่าเป็นทัวร์สนับสนุนอัลบั้ม Phoenix ก็จริง แต่อย่างที่ว่าไว้ข้างต้น วัตถุดิบของไลน์อัพนี้มีแค่ 4 อัลบั้ม และทางวงก็คงรู้ดีว่าคนส่วนใหญ่ที่มาดูนั้นซื้อตั๋วมารำลึกความหลังครั้งยังหนุ่มสาวมากกว่า (ไม่นับคนเขียนที่ตอนนั้นเพิ่งอยู่ประถม) เซตลิสต์ในงานก็เลยคล้ายเป็นคอนเสิร์ต Greatest Hits โดยปริยาย

ตั้งแต่เพลงเปิด Only Time Will Tell เรื่อยไปถึง The Heat Goes On, Here Comes The Feeling สลับกับเพลงจากอัลบั้มใหม่เท่าที่จำได้ก็มี Never Again กับ An Extraordinary Life แทรกด้วยงานเก่าของ Yes บ้าง King Crimson บ้าง

ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นช่วงที่เล่น In The Court of Crimson King นี่แหละ ที่ระบบเสียงเกิดอาการรวน จนสมาชิกแต่ละคนมองหน้ากันเลิ่กลั่กแต่ก็ยังทู่ซี้เล่นกันไป กว่าที่สตาฟฟ์จะแก้ไขเสร็จ ลุง Howe ก็ส่ายหัวพร้อมทำหน้าแบบเซ็งๆบอกอารมณ์ว่าไม่แฮปปี้เท่าไหร่

อาจจะด้วยเพราะอายุมากๆกันแล้วทั้งนั้น ลุงๆแกก็เลยต้องแบ่งโชว์ออกเป็นสองช่วง ทีแรกไม่รู้ก็ใจหายเหมือนกันว่าทำไมจบเร็วจัง (ยังไม่คุ้มค่าตั๋วว่างั้น) แต่พอเห็นคนส่วนใหญ่ยังนั่งกันสบายใจเฉิบ ถึงเข้าใจ

และที่ขาดไม่ได้คือช่วงที่เปิดช่องให้สมาชิกแต่ละคนได้ "เดี่ยว" ในรายของ Downes กับ John Wetton ไม่ค่อยได้โชว์อะไรมากนัก ผิดกับ Howe ที่หิ้วอะคูสติกกีตาร์ออกมาแสดงฝีมือแบบเต็มที่ จะไม่เต็มร้อยก็ตรงลีลาแบบเก้ๆกังๆเหมือนคนแก่ของแก (จริงๆก็แก่นั่นแหละ)


โชว์คู่คั่นเวลาของ Wetton กับ Downes


Howe กับช่วงเดี่ยวอะคูสติก

ขณะที่ Palmer นั้นเลือกใช้ช่วงกลางเพลง The Heat Goes On โซโล่กลองที่ผสมผสานทั้งเทคนิคระดับเทพปนกับอารมณ์ขันนานเกือบสิบนาที เรียกคะแนนจากคนดูไปแบบเต็มๆ ก่อนที่สมาชิกอีกสามคนจะกลับมาเล่นกันต่อท่อนท้ายจนจบเพลง


Palmer กับช่วงโซโล่กลองยาวเกือบสิบนาที

และก็ตามธรรมเนียมคือหลังจากจบเพลงสุดท้าย Sole Survivor แล้วก็ต้องมีอังกอร์เป็นของแถม และคงเดากันไม่ยาก เพราะของอร่อยสุดต้องเก็บไว้กินตอนท้าย นั่นคือ Heat Of The Moment เพลงดังที่สุดของวง

ดังขนาดไหน ก็ขนาดสาวที่นั่งข้างๆ (ไม่ได้มาด้วยกัน) ยังทำท่าตื่นเต้นประมาณว่า "เพลงนี้ฉันก็รู้จักนะเธอ"


ลีลาของสี่สมาชิกใน Heat of The Moment เห็นมั้ย Downes นี่โคตรวัยรุ่นเลย

ว่าแล้วคนในฮอลล์ก็ลุกขึ้นมาเต้นกันแบบลืมแก่ตั้งแต่ต้นจนจบ Wetton กับสมาชิกทั้งสาม ก็ทรมานสังขารทั้งของตัวเองทั้งของคนดู ด้วยการเล่นท่อนคอรัสซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ แถมยังนิ่งให้คนดูร้องเองให้หายอยาก ก่อนจะจบกันไปอย่างสุขสมทั้งคนดูและคนเล่น

ปล.อย่าแปลกใจหากรูปจะนอยส์กระจาย เพราะสภาพแสงในนั้นเข้าขั้นโหดเหี้ยมอำมหิต สุดปัญญาที่น้องน้อย D-Lux3 จะทำให้มันชัดเจนกว่านี้ได้ แถมถ่ายไปไอ้คนข้างหน้าก็โยกไปโยกมาบังเป็นระยะ (ข้อแก้ตัวเยอะจริงๆ)

ไม่มีความคิดเห็น: